Saturday, April 20, 2024

Crypto Currency คือ อะไรในระบบเศรษฐกิจ

Share

ช่วงที่ผ่านมาได้คุยกับเพื่อนที่ลงสนใจลงทุน Crypto Currency (พวก coinต่าง ๆ) แล้วพบว่ามีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่ เพราะ Crypto Currency นั้น มีความหมายคาบเกี่ยวกับ trend ที่กำลังมาแรงอีก 2 อย่าง คือ Blockchain, Cashless Society

ซึ่งหากไม่เข้าใจ ว่าแต่ละอย่างคืออะไร ผมว่าอันตรายมาก ที่จะเอาเงินไปลงในสิ่งที่ตัวเองไม่เข้าใจ ก็ขอเขียนเท่าที่เห็นมานะครับ

เงินคืออะไร?

ก่อนอื่นขอปูพื้นเรื่องเงินก่อน เงินคือสิ่งที่สังคมกำหนดใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ นั่นคือ ที่เงินมีค่าก็เพราะเราเอาไปใช้เแลกเป็นสินค้า/บริการ ได้นั่นเอง นอกจากนี้ สิ่งที่หนุนค่าเงินอีกอย่างคือ ทองคำ/เงินตราต่างประเทศ ซึ่งสามารถเอาไปแลกเปลี่ยนได้ อย่างน้อยก็ที่ธนาคารกลางของประเทศนั้น ๆ สามารถทำให้ผู้ถือเงินมั่นใจได้ว่าสิ่งที่ตัวเองถือไม่ใช่เพียงแค่กระดาษเปื้อนหมึก

อ้างอิง : https://www.wikipedia.org/wiki/เงิน

Cashless Society 

เทรนด์ที่กำลังมาขณะนี้อันนึงคือ สังคมไร้เงินสด ซึ่งเป็นการเปลี่ยนรูปแบบเงินกระดาษให้เป็นเงินดิจิตอลในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้การจับจ่ายได้สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย (จากการฉกชิงวิ่งราว) มากขึ้น โดยสกุลเงินในระบบยังคงเป็นสกุลเดียวกับเงินกระดาษอยู่

ผลพลอยได้คือ

  • ภาครัฐสามารถจัดเก็บภาษีได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยขึ้น
  • จะหลบภาษีแบบแต่ก่อนไม่ได้ละ เพราะรัฐมีข้อมูลการไหลของเงินทั้งหมด

อ้างอิง : https://finance.rabbit.co.th/blog/cashless-society

Blockchain 

Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงอีกตัว มันคือ วิธีการเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ โดยจะเก็บข้อมูลเป็นก้อน ๆ (block) และอ้างอิงต่อเนื่องเป็นสายโซ่ (chain) ต่อ ๆ กันไปเรื่อย ๆ (มันเลยได้ชื่อว่า blockchain)

ระบบนี้เหมาะกับข้อมูลที่มีคุณลักษณะ

  • ยอมทุกคนในระบบเห็นได้เหมือนกันหมด (แต่ใครเข้าถึงระบบได้ก็อีกเรื่อง ซึ่งจำกัดคนเข้าถึงก็จะเป็น private blockchain)
  • ไม่สามารถแก้ไขย้อนหลังได้

ซึ่งข้อมูลใน block นั้นจะเป็นอะไรก็ได้ เช่น กรมธรรม์ประกันภัย ข้อมูลสุขภาพ ฯลฯ รวมทั้งรายการการเงิน ดูเหมือนว่าภาคธนาคารต่าง ๆ ก็กำลังทำ blockchain เพื่อใช้เป็นระบบเก็บ transaction ระหว่างธนาคาร อยู่เช่นกัน

ส่วน Crypto Currency (ที่อ้างว่า) คือ เงินดิจิตอลสกุลนึงซึ่งจัดเก็บด้วย blockchain (ส่วนรายละเอียดน่าจะหาอ่านที่อื่นได้ไม่ยาก)

โอ้ว.. ทั้ง Cashless Society, Blockchain กำลังมา Crypto Currency คาบเกี่ยวทั้ง 2 อย่างเลย ถ้าอย่างนั้นเราควรลงทุนซื้อ Crypto Currency มาครอบครองสินะ?

ช้าก่อนครับ!

  • cashless society นั้นเป็นสกุลเงินของประเทศนั้น ๆ พูดให้อ๋อ ก็คือ promptpay นั่นเองที่กำลังมา มันเกี่ยวอะไรกับ coin ต่างๆ? (ยกเว้นอ้างว่าไม่ต้องพกเงินสดเหมือนกัน)
  • blockchain กำลังนำมาใช้ในระบบธนาคารต่าง ๆ มันเกี่ยวอะไรกับ coin ที่ต่างคนต่างขุดกันทั่วโลก?

เริ่มแปลก ๆ แล้วใช่มั๊ยครับ? พูดง่าย ๆ คือ

“การอ้างว่า Cashless Society, Blockchain กำลังมา ให้เราลงทุนไปหา Crypto Currency มาครอบครอง” นั้น เป็นการผิดฝาผิดตัวซะจนดูเหมือนเป็นการหลอกลวงด้วยซ้ำ!!

Crypto Currency

เรามาดูกันชัดๆดีกว่าว่า Crypto Currency จะสามารถเป็นอะไรได้บ้าง ตั้งแต่ แย่สุดจนดีสุด

แย่สุด คูปองศูนย์อาหารร้าง

อย่างที่เขียนไว้ตอนแรกว่า สกุลเงินจะมีค่า ก็ต่อเมื่อเอามาแลกสินค้า/บริการ ได้ การที่เราเอาเงินจริง ๆ ไปแลกคูปองศูนย์อาหารร้าง ที่ไม่มีอะไรขายนั้น ไม่ต่างกับการเอาเงินจริงไปแลกกับเศษกระดาษแถมไม่มีธนาคารกลางที่รอรับแลกกลับเป็นเงินจริงอีกด้วย

การซื้อขายสิ่งที่ไม่ได้มีคุณค่าจริง ไป ๆ มา ๆ มันเป็นอะไรได้นอกจากเก็งกำไร?

บางคนคิดว่า อย่างน้อยมันคงไม่โหดเท่า ดอกทิวลิป หรอก เพราะดอกทิวลิปเน่าได้ แต่คูปองมันไม่เน่า เรียกว่าไม่ขายไม่ขาดทุน
เออ.. แต่กรณีนี้ถ้าคนไม่ใช้ คนขุดก็ไม่ได้เหรียญใหม่/ค่าธรรมเนียมจะพาลเลิกกันหมดเอา มันคือเหมือนปิดเซิฟฯเกม online นะคร๊าบเรียกว่าเจ๊งถ้วนหน้า แบบไม่มีเศษกระดาษให้ถือด้วย

ตั้งไข่ แลกเปลี่ยนสินค้าได้ ถ้า coin นั้น ๆ สามารถหาคนทำสินค้า/บริการ ที่ยอมรับ coin ได้ จะด้วยวิธีใดก็แล้วแต่ (เช่น การเสนอว่า coin ที่จะนำมาขายสามารถนำมาแลก สินค้าของบ.ตัวเองได้ coin นั้นก็ดูเหมือนมีค่ามีตัวมีตนขึ้นมาหน่อยแต่จะมีสินค้า/บริการอื่น ๆ มายอมรับด้วยทีหลังหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ไม่แน่นอน)

ร้านค้าและคนในระบบ coin นั้นจะเจอเรื่องปวดหัวกับ บัญชีที่ต้องทำเป็น 2 สกุลเงิน (เงินปกติ+coin) อยากรู้ว่าเป็นยังลองไปกัมพูชาดู (เงินเรียล+ดอลล่าร์ โอ.. ชือ-กบาล:”ปวดหัว” ภาษาเขมร) และ จะซ้ำให้ปวดหัวหนักขึ้นด้วย ความผันผวนของราคา coin
เพราะการตั้งราคาในระบบที่ผันผวนนั้นลำบากมาก

ถ้า coin กำลังขึ้น คนซื้อก็จะไม่ซื้อ เพราะเทียบกับเงินจริงแล้วแพงขึ้น ก็จะขายไม่ออก จนกว่าเราจะลดราคา ยอมรับ coin ให้น้อยลงเพื่อว่าเมื่อเทียบเงินจริงแล้วเท่าๆกัน

ถ้า coin กำลังตก แล้วรับ coin มาเท่าเดิม .. อ้าว ขาดทุน! ต้องรีบเปลี่ยนราคาเรียก coin ให้มากขึ้น

เรียกว่าเหมือนพยายามจะต้องอยู่รอดในระบบเศรษฐกิจที่ไม่มีธนาคารกลางคอยดูแลเลย

ดีสุด สกุลเงินหลักของโลก

ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ ถ้าคนยอมรับซื้อขายสินค้าบริการกันเยอะ+ราคานิ่งพอควร มันอาจจะสามารถเทียบเท่ากับเงินสกุลหลักอื่นของโลก (หรือทองคำ…อย่างที่โฆษณากัน) จนธนาคารกลางของแต่ละประเทศต้องเอามาใช้มาเก็บ ในคลัง/ในตระกร้าเงิน เลยทีเดียว

โอ.. ถ้ามันไปถึงจุดนั้นได้จะยอดมากเลยนะจอร์จ นั่นสิ ซาร่าห์..ว่าแต่มีตังค์ให้ยืมซักแสนนึงก่อนมั๊ย? จะเอาไปซื้อ coin นี่ไม่คิดถามสุขภาพกระเป๋าตังค์ชั้นซ๊ากกคำก่อนเหรอ?

มุมมองรัฐ

ข้างบนนั้นคือมุมมองภาค micro-economy แต่ภาค macro-economy นั้นจะต้องมองแบบรัฐ ซึ่งมุมมองของรัฐต่อ crypto currency นั้นน่าจะเป็นลบเพราะ

  1. ธรรมชาติค่าเงินนั้นต้องมี สินค้า/บริการ หนุนหลัง จะเกิดอะไรขึ้นกับเงินบาท ถ้าคนหันไปใช้ coin กันหมด …เงินบาทก็จะไร้ค่ายังไงละ!! กลายเป็นว่าคนไทยต้องขายบาทออกไปซื้อ coin เพื่อมาซื้อสินค้า/บริการในประเทศ และไม่มีท่าทีจะแลกกลับเป็นเงินบาทด้วย เพราะเมื่อแพร่หลายแล้วจะสามารถเอาไปซื้อสินค้า/บริการอื่นต่อได้!!!  เทียบกับ บ.ส่งออกจะแลกเงินดอลกลับเป็นบาทมาใช้จ่ายในประเทศ เพราะสินค้า/วัตถุดิบล้วนเป็นเงินบาท ทำให้เศรษฐกิจฝนประเทศดีขึ้น และ ธนาคารประเทศไทยก็จะมีเงินดอลสำรองเพิ่มขึ้น สถานะการคลังของประเทศก็แข็งแกร่งขึ้น
  2. รัฐจะเก็บภาษีไม่ได้ เพราะข้อมูลไม่ผ่านระบบการเงินปกติ ถึงจะเสนอให้รัฐไปเก็บภาษีตรงที่แลก บาท <-> coin แต่เงินปกติถ้าซื้อกันหลายทอด รัฐยิ่งได้ภาษี เช่น

นาย A ซื้อนาย B 100 บาท มีภาษี 7 บาท เหลือ 93

นาย B ซื้อนาย C 93 บาท มีภาษี 6.51 บาท เหลือ 86.49 ไปเรื่อย ๆ 

แต่ถ้าเป็น coin

นาย A แลก 107 บาท หักภาษี 7 บาท เหลือเป็น coin ที่มีมูลค่า 100 ซึ่ง coin นี้จะวนในระบบไปไม่รู้กี่ทอด โดยรัฐไม่ได้ภาษีจนกระทั่งแลกออก 

นาย Z แลก coin ที่มีมูลค่า 100 บาท หักภาษี 7 บาท เหลือออกมา 93 บาท เท่ากับรัฐได้ภาษีแค่ 14 บาท จากการซื้อขายกันไม่รู้กี่รอบ ยิ่งถ้าแพร่หลายจนมันวนในระบบได้โดยไม่ต้องแลกกลับเป็นเงินบาทรัฐจะได้ภาษี 7 บาทในปีแรกๆ และปีที่เหลือเป็น 0 … ตลอดกาล!!!

จะเห็นว่า crypto currency มีข้อเสียใหญ่ในมุมมองของรัฐถึง 2 ข้อ และการปรับแก้ บังคับให้ส่งบัญชี crypto ด้วยนั้นดูจะวุ่นวายมากกว่า ยิ่งมีระบบ cashless society ที่ทำงานได้ดีอยู่แล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องมี crypto currency ในระบบเศรษฐกิจของประเทศเลย!!

ศูนย์อาหารใต้ดิน 

นอกจากเหตุผลข้างต้นที่เป็นสิ่งบนดินยังดูแย่ในสายตารัฐ เหตุผลจากใต้ดินยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะ cashless society นั้นสามารถติดตามเส้นทางการเงินได้ทั้งหมด การฟอกเงินจะยาก และตามคนเกี่ยวข้องกับมาเฟีย/แก๊งค์อาชญากรรมได้ง่ายผ่านเส้นทางการเงิน หากถูกจับได้เพียงคนเดียว อาจโดนลากออกมาทั้งแก๊งค์!!

ยิ่งถ้า cashless society ล้ำไปถึงข้อมูล biometric เหมือนที่จีน ใช้ใบหน้า จ่ายเงินแทน QR code กันแล้ว โจรที่ถูกออกหมายจับจะหนีรอดยากมาก

อ้างอิง : https://www.blognone.com/node/95182

แต่ถ้า crypto currency เกิด มันจะเป็นทางเลือกทางนึงของธุรกิจมืด ในการฟอกเงินที่ได้มาโดยผิดกฎหมาย เนื่องจากเป็นการยากที่จะรู้ว่าใครเป็นใครในระบบ เพราะระบบมันเก็บเจ้าของเงินเป็นค่า hash จึงไม่มีทางรู้เลยว่าเป็นใคร เรียกว่า อยู่บนดินก็ทำลายระบบเศรษฐกิจปกติ อยู่ใต้ดินก็ส่งเสริมให้ธุรกิจใต้ดินเฟื่องฟูด้วย ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจ ถ้าจะมีรัฐบาลไหนที่เริ่มจะแบนเงิน crypto currency ขึ้นอยู่กับรัฐนั้นรู้ตัวช้าหรือเร็ว

เพิ่มเติม :

ICO = IPO ของ Startup? 

อีก keyword นึงที่เข้าใจผิดกันคือ Startup

  • Startup คือ กิจการใหม่
  • เหรียญใหม่ = กิจการใหม่รูปแบบนึง
  • ซื้อเหรียญ ICO = ลงทุนในกิจการใหม่เหมือน IPO
  • ถ้าเลือกเหรียญดี ๆ กิจการเจ๋ง ๆ เราจะได้มูลค่าเพิ่มหลายเท่ามาก จึงน่าลองเสี่ยง

แต่ๆๆๆ จริง ๆ แล้วการลงทุนใน Startup ที่แท้จริง ต้องเป็นแบบ venture capital คือลงเงินแล้วได้เป็นหุ้นของกิจการ ครับ!!

แต่มี fund rising ที่มามั่วนิ่มใช้คำว่า “ระดมทุน” ในช่วงที่ Startup กำลังบูมสุดขีด แต่ปรากฏว่าลงเงินแล้วจะแค่ได้สินค้าในราคาถูกพิเศษ เหมือน ๆ กับ pre-order ตั้งแต่ยังไม่มีพิมพ์เขียว มีแต่ภาพ mock up ซึ่งกลุ่มนี้ช่วงหลัง ๆ คนเริ่มรู้ว่าไม่ใช่การลงทุนแต่เป็นซื้อสินค้า จึงระดมเงินไม่ได้เลย พอมีกระแส coin ก็เลยหันมาออก coin กัน

สังเกตว่า ICO ส่วนใหญ่สัญญาว่าจะใช้แลกสินค้าทั้งนั้น แล้วหยอดคำหวานว่า ถ้าไม่รีบซื้อ เดี๋ยวราคา coin เค้าจะขึ้น อ้าว ถ้า coin คุณขึ้น คนก็ไปซื้อสินค้า/บริการ จากเจ้าอื่นสิ!! จะมาซื้อ coin แพง ๆ เพื่อมาแลกสินค้า/บริการคุณทำไม?

จริง ๆ แล้วการเอาเงินไปลงใน ICO คือการลงทุนได้เป็นหุ้นส่วนของกิจการ Startup หรือ เป็นการเก็งกำไรบนคูปองศูนย์อาหารที่ยังไม่เปิด??


ต้นฉบับบทความ

pantip.com

กาเหว่า
กาเหว่าhttp://konderntang.com
มีความชอบและหลงไหลในเทคโนโลยีทางด้านไอที การลงทุน และเงินคริปโต .. นอกจากนี้แล้วมักใช้เวลาว่างไปกับการท่องเที่ยว ถ่ายรูป ไปค่ายอาสา ..

Read more

Local News